แมว เป็นสัตว์เลี้ยงที่ต้องได้รับการดูแลไม่ต่างจากมนุษย์ ทาสอย่างเราต้องให้ทั้งความรัก และเอาใจใส่ในเรื่องของสุขภาพ เพื่อให้เขามีร่างกายสมบูรณ์ ห่างไกลโรคภัยไข้เจ็บ และอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข
1. รับวัคซีนให้ครบตามโปรแกรม
การพาเจ้าเหมียวคู่ซี้ของเราเข้ารับวัคซีนตามโปรแกรมที่กำหนด เป็นเรื่องที่ผู้เลี้ยงต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัดนะคะ เพื่อให้เขาได้รับวัคซีนต้านโรคต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ เรามาดูตารางการรับวัคซีนกันเลยดีกว่าค่ะ
- 3-4 สัปดาห์แรก พาไปตรวจสุขภาพและถ่ายพยาธิ
- 6 สัปดาห์ พาไปหยอดยาป้องกันโรคพยาธิหนอนหัวใจ
- 8 สัปดาห์ ฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หัด โรคระบบทางเดินหายใจส่วนต้น โรคลิ้นอักเสบ และโรคช่องปาก
- 9 สัปดาห์ ฉีดวัคซีนป้องกันโรคลิวคีเมีย
- 12 สัปดาห์ ฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า
- 13 สัปดาห์ ฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หัด โรคระบบทางเดินหายใจส่วนต้น โรคช่องปาก และโรคลิ้นอักเสบเป็นครั้งที่ 2
- 14 สัปดาห์ ฉีดวัคซีนป้องกันโรคลิวคีเมีย ครั้งที่ 2
- 16 สัปดาห์ หยอดวัคซีนป้องกันโรคเยื่อบุช่องท้องอักเสบติดต่อ ครั้งที่ 1 โดยหยอดทางจมูก
- 19 สัปดาห์ หรือประมาณ 9 เดือน หยอดวัคซีนป้องกันโรคเยื่อบุช่องท้องอักเสบติดต่อ ครั้งที่ 2 หลังจากนั้นทุกๆ 6 เดือน พาไปตรวจสุขภาพ ถ่ายพยาธิเป็นประจำ
- ทุกๆ 1 ปี ฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หัด โรคระบบทางเดินหายใจส่วนต้น โรคช่องปากและโรคลิ้นอักเสบ ฉีดวัคซีนป้องกันโรคลิวคีเมีย หยอดวัคซีนป้องกันโรคเยื่อบุช่องท้องอักเสบติดต่อ และโรคพิษสุนัขบ้า
2. ทำหมัน
การทำหมันแมว ในทางการแพทย์ถือว่าเป็นการส่งเสริมสุขภาพนะ เพราะจะช่วยลดปัญหาด้านสุขภาพลงไปได้มาก เช่น โรคที่เกี่ยวกับระบบสืบพันธุ์ ตั้งแต่มดลูกอักเสบเป็นหนอง มะเร็งเต้านม ต่อมลูกหมากโต เป็นต้น และเป็นการวางแผนครอบครัวให้ด้วย เพศเมียสามารถทำหมันได้ตั้งแต่อายุ 7 เดือนขึ้นไป หรือต้องผ่านการเป็นสัดครั้งแรกไปแล้ว และควรมีน้ำหนัก 2 กิโลกรัมขึ้นไป
ส่วนเพศผู้ทำหมันได้ตั้งแต่อายุ 12 เดือนขึ้นไป เพื่อให้การเจริญเติบโตของร่างกายสมบูรณ์ก่อน เพราะหากทำหมันก่อนครบช่วงอายุ อาจจะมีปัญหาเกี่ยวกับระบบปัสสาวะได้
3. เข้ารับการตรวจสุขภาพประจำปี
น้องเหมียวต้องได้รับการตรวจสุขภาพประจำปีเหมือนกับมนุษย์ ถึงแม้ว่าให้เขากินอาหารครบตามหลักโภชนาการ ดูแลเป็นอย่างดี พาออกกำลังกายสม่ำเสมอ แต่เราจะแน่ใจได้อย่างไร ว่าเขาไม่มีโรคร้ายแฝงอยู่ ซึ่งอาจรอวันเล่นงานเมื่อภูมิคุ้มกันลดลงก็เป็นได้ ถ้าไม่อยากเสียใจภายหลัง แนะนำให้พาไปตรวจสุขภาพประจำปี
4. เลือกอาหารที่มีประโยชน์
การเลือกอาหารก็เป็นอีกประเด็นสำคัญ ปัจจุบันมีอาหารสำเร็จรูปหลากหลายสูตรให้ผู้เลี้ยงได้เลือกสรร โดยแบ่งออกเป็น 2 ชนิด ได้แก่ อาหารเม็ด และ อาหารเปียก ซึ่งทั้งสองชนิดนี้ก็มีคุณค่าทางโภชนาการที่เหมาะสมกับเขาในแต่ละช่วงวัย และยังช่วยให้ผู้เลี้ยงเกิดความสะดวกสบายเมื่อให้อาหารด้วย เพียงฉีกซองแล้วเทใส่ชามก็เป็นอันเรียบร้อย
เป็นอย่างไรกันบ้าง ไม่ใช่เรื่องยากเลยใช่ไหมที่จะดูแลสุขภาพของเจ้าเหมียวที่เรารักให้มีสุขภาพดี ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่ และสำคัญมาก เพราะเขาไม่สามารถบอกเราได้ว่าเขาเจ็บป่วยตรงไหน เมื่อเรารับเขามาเลี้ยงแล้ว ก็ต้องดูแลเขาให้ดีที่สุด