นอกเหนือจากที่ผู้ปกครองของน้องๆ จะเข้าใจพฤติกรรมและนิสัยใจคอของสุนัขแล้ว ยังมีอีกหลายสัญญาณที่สำคัญไม่น้อยไปกว่ากันก็คือ ท่าทางการแสดงออกของน้องหมา ถึงความเครียด หรืออาการป่วยต่างๆ Lifemate จึงขอนำข้อสังเกตเกี่ยวกับความหมายของสัญญาณที่สุนัขต้องการสื่อสารมาฝากกัน

สัญญาณที่บ่งบอกว่าสุนัขเครียด

 1. ท้องเสีย ท้องผูก หรือมีปัญหาเรื่องระบบย่อยอาหาร

อาการเหล่านี้อาจเกิดขึ้นจากหลายสาเหตุด้วยกัน เช่น อาหาร ความเครียดต่างๆ เพราะสุนัขก็มีความเครียดเช่นเดียวกับเรา จนเครียดลงกระเพาะได้ หากพบว่า สุนัขที่เลี้ยงมีอาการดังกล่าวรุนแรงกว่าปกติ เช่น ท้องเสียแบบมีเลือดปะปน อาเจียนเป็นเลือด รวมถึงป่วยติดต่อนานเกิน 24 ชั่วโมง ให้รีบไปพบสัตวแพทย์โดยด่วน

2. กินอาหารน้อยลง

จู่ๆ อาหารที่เคยชอบ ก็เบื่อไปซะเฉยๆ หรือไม่ยอมกินอาหาร อาการดังกล่าวอาจมีสาเหตุมาจากความเครียด หรือมีปัญหาทางสุขภาพ อีกทั้งปริมาณอาหารที่สุนัขก็กินน้อยลง ส่งผลให้น้ำหนักลดลง ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อสุนัขเลย ดังนั้น ควรไปขอคำปรึกษาจากสัตวแพทย์เพื่อแก้ปัญหาโดยด่วน

3. แอบไปอยู่เหงาๆ ตามลำพัง ไม่อยากเจอผู้คน

สุนัขบางตัวมีนิสัยรักสันโดษ บางครั้งก็ชอบอยู่ตามลำพัง แต่หากสุนัขที่คุณเลี้ยงมีนิสัยร่าเริง เข้ากับคนง่าย ถ้าสุนัขของคุณแยกตัวออกจากคนในบ้าน หรือสัตว์เลี้ยงตัวอื่น หลบหน้าหลบตา นั่นอาจมีสาเหตุมาจากความวิตกกังวล หรือไม่สบาย เพื่อความสบายใจของคุณ ควรพาไปพบสัตวแพทย์ เพื่อตรวจหาสาเหตุที่แท้จริงของพฤติกรรมนี้

4. นอนมากเกินกว่าปกติ

ถ้านอนมากกว่าปกติ หรือดูเซื่องซึมจนผิดสังเกต นั่นหมายถึง สุนัขเกิดความเครียด ป่วย บาดเจ็บ หรือทรมานด้วยสาเหตุบางอย่าง และยังเป็นอาการของโรคต่างๆ เช่นโรคเบาหวาน หัวใจ ตับ เนื้องอก ท้องเสีย ร่างกายขาดน้ำอย่างรุนแรง โลหิตจาง อาการดังกล่าวอาจเป็นสาเหตุเกิดจากผู้เลี้ยงเอาใจใส่น้อยลง ขาดการทำกิจกรรมร่วมกัน ซึ่งก็เป็นผลกระทบทางด้านจิตใจของสัตว์เลี้ยง

5. แสดงความก้าวร้าวต่อคน หรือสัตว์ตัวอื่นมากขึ้น

ข้อนี้ก็ถือเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงความเครียดได้เช่นกัน สังเกตได้จากสีหน้า ท่าทางหวาดกลัว และท่าทางยอมแพ้ สำหรับการรักษาเบื้องต้น สามารถทำได้โดยการนำอุปกรณ์อย่างตะกร้อครอบปากมาใช้ เพื่อช่วยป้องกันสุนัขกัด ถ้ามีความก้าวร้าวมากขึ้น ผู้เลี้ยงจะไม่สามารถควบคุมสุนัขได้

สัญญาณที่บ่งบอกว่าสุนัขกำลังป่วย

 1. ความอยากอาหารลงลด หรือไม่อยากอาหารเลย

อาการเบื่ออาหาร หรือกินอาหารไม่อร่อย เกิดได้จาก 2 กรณี คือ สภาพแวดล้อมอื่นๆ  และอาการป่วย สำหรับกรณีที่เกิดจากสภาพอากาศที่ร้อนจัด หรือมีสิ่งอื่นล่อใจที่ทำให้สุนัขสนใจอย่างอื่นมากกว่าอาหาร ถือว่าไม่เกี่ยวกับโรคภัยไข้เจ็บ จากกรณีดังกล่าว แนะนำให้ผู้เลี้ยงปรับเปลี่ยนสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมมากขึ้น ถ้ายังไม่ยอมกินอาหาร ก็ต้องสันนิษฐานไว้ก่อนว่าอาจจะป่วย ดังนั้น ควรพาไปพบสัตวแพทย์เพื่อวินิจฉัยโรคให้แน่นอนอีกครั้ง

2. เฉื่อยชา กระฉับกระเฉงน้อยลง นอนมากขึ้น

สุนัขที่รู้สึกไม่สบายตัวจะลดความกระฉับกระเฉงลง บางครั้งก็อาจจะเป็นการสับสนระหว่างอาการป่วยกับความชราตามวัย กรณีนี้ผู้เลี้ยงจะสังเกต และรับรู้ความเปลี่ยนแปลงได้ดีที่สุด ซึ่งอาการเหล่านี้แสดงให้เห็นว่า สุนัขตัดขาดความสนใจสิ่งแวดล้อมรอบตัว และให้เวลากับการนอนมากขึ้น เป็นสัญญาณแจ้งเตือนที่อาจเกิดขึ้นได้ทั้งก่อน-หลังอาการป่วย ทั้งนี้ยังขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการป่วยนั้นๆ

3. ดื่มน้ำมากขึ้น

การที่สุนัขดื่มน้ำมากขึ้นกว่าปกติ หรือดื่มแล้วมีอาการสำลัก หายใจติดขัดร่วมด้วย มักเป็นสัญญาณบอกเหตุของโรคบางชนิด เช่น โรคไต โรคเบาหวาน โรคปอด และโรคหัวใจ ดังนั้น เมื่อคุณสังเกตเห็นความผิดปกติดังกล่าว ถือเป็นสัญญาณเตือนที่อันตรายมาก

4. อาการไอ

สัญญาณเตือนนี้ถือเป็นปัญหาสำคัญอีกข้อหนึ่งที่ไม่ควรมองข้าม เมื่อสุนัขมีอาการไอ ต้องสังเกตลักษณะของการไอควบคู่ไปด้วย ซึ่งสามารถบอกความร้ายแรงได้ในหลายโรค โดยเฉพาะโรคพยาธิหัวใจ สุนัขมักจะไอแห้งๆ อยู่บ่อยครั้ง เหมือนพยายามคายอะไรออกมา หากพบอาการแบบนี้ ควรพาไปพบสัตวแพทย์

สุดท้ายแล้ว ไม่ว่าจะเป็นสัญญาณเตือนข้อไหนก็ตามแต่ สุนัขต้องได้รับการสังเกตอย่างถี่ถ้วนจากผู้เลี้ยงด้วยเช่นกัน เพราะหากว่าผู้เลี้ยงไม่ทันสังเกต หรือขาดการเอาใจใส่ที่ดี รู้ตัวอีกทีก็การรักษาสุนัขไม่ทันเสียแล้ว ถ้าไม่อยากสูญเสียเพื่อนที่ดีที่สุดไป ก็ต้องหมั่นดูแลเอาใจใส่ และเช็คท่าทางของสุนัขอย่างใกล้ชิด