รู้หรือไม่?
ถ้าเจ้าของลองสังเกตน้องแมวที่บ้านบ่อยๆ เราจะสามารถรู้ล่วงหน้าได้ก่อนฝนตกจริงจากสัญญาณ และอากัปกิริยาต่างๆ ของน้องที่ดูแปลกขึ้นไปจากกิจวัตรเดิม (จากที่แปลกอยู่แล้ว!)
ซึ่งมนุษย์ในสมัยโบราณเอง ก็ใช้วิธีการสังเกตเฝ้าดูสัตว์ในการทำนายสภาพอากาศมายาวนาน หรือถ้าใครที่ทำงานในฟาร์ม ก็จะคุ้นชินกับพฤติกรรมของสัตว์ที่เปลี่ยนไปชัดเจนโดยผลกระทบจากการที่สภาพอากาศกำลังจะเปลี่ยนแปลง
เหล่าน้องแมว(และสัตว์ชนิดอื่นๆ) นั้นสามารถพยากรณ์อากาศได้ว่าฝนกำลังจะตก เพราะน้องจะมีประสาทสัมผัสที่ไวต่อเสียงและกลิ่นต่างๆ ในธรรมชาติ ดียิ่งกว่ามนุษย์หลายเท่านัก หูชั้นในของแมวสามารถรับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงความดันของชั้นบรรยากาศที่ลดลง ซึ่งเป็นสถานการณ์ก่อนที่จะเกิดพายุฝนนั่นเอง หรือแม้กระทั่งได้ยินเสียงฟ้าร้องจากระยะที่ไกลออกไป เกินกว่าที่มนุษย์จะได้ยิน ถ้ายังแม่นยำไม่พอ น้องแมวจะได้กลิ่นก๊าซโอโซนที่เกิดจากฟ้าผ่าไกลๆ ได้อีกต่างหาก
ซึ่งด้วยความที่แมวแต่ละตัวมีนิสัยที่แตกต่างกันไปยากจะหยั่งถึง ดังนั้นการสังเกตอาการในแมวที่จะบอกว่าฝนตก ก็อาจจะท้าทายกว่าเล็กน้อย เพราะไม่สามารถเจาะจงท่าทางได้แบบสัตว์ในฟาร์มชนิดอื่นๆ แต่จะต้องใช้การสังเกตเป็นแต่ละตัวไป เช่น ถ้าปกติน้องเป็นคนเรียบร้อย ก็อาจจะดูไฮเปอร์ขึ้นมา หรือแมวที่ชอบเข้าสังคม อยู่ดีๆ ก็หนีไปซ่อนตัว หรือถ้าเป็นแมวขี้รำคาญ กลับเดินมากอดอ้อนหนุงหนิงกับทาส เป็นต้น
แต่มันก็พอมีสถิติอยู่บ้างนะ ที่ระบุพฤติกรรมบางอย่างของน้องแมว ที่แปลว่าสภาพอากาศกำลังจะเปลี่ยน เผื่อให้ทาสลองไปสังเกตสนุกๆ ดูน้องแมวที่บ้านว่าตรงไหม?
- ถ้าแมวทำความสะอาดหูทั้งสองข้าง แปลว่า ฝนจะตก
- ถ้าแมวอยู่ดีๆ ก็คึกคักขึ้นมา แปลว่า กำลังจะมีพายุ
- ถ้าแมวจ้องมองนอกหน้าต่างนานๆ แบบไม่โฟกัส แปลว่า ฝนกำลังจะตก
- ถ้าแมวหมกมุ่นกับการดมฟุดฟิดๆในอากาศ แปลว่าฝนหรือหิมะจะตก
- ถ้าน้องแมวตัวที่รักคุณมากๆ อยู่ดีๆก็งับหรือขู่ทาสขึ้นมา แปลว่าจะมีพายุฝนถล่ม หรือในบางประเทศถ้าน้องหงุดหงิดขึ้นมารุนแรง อาจหมายถึงกำลังจะเกิดแผ่นดินไหวได้เลยนะ
ส่วนถ้าน้องแมวนอนหาวยืดเหยียดบิดขี้เกียจอย่างสบายใจแล้วล่ะก็ แปลว่าวันนี้อากาศจะโอเค สบายใจได้เลยทาส
